สถานีโทรทัศน์เพรสทีวี (Press TV) ของทางการอิหร่านรายงานในวันอาทิตย์ (22 มิ.ย.) ว่า ขณะนี้อิหร่านยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะปิดช่องแคบฮอร์มุซหรือไม่ โดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติสูงสุดของอิหร่านจะเป็นผู้ตัดสินใจขั้นสุดท้ายในเรื่องดังกล่าว
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่ารัฐสภาอิหร่านสนับสนุนให้มีการปิดช่องแคบฮอร์มุซ หลังจากสหรัฐฯ ใช้ปฏิบัติทางอากาศโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน โดยสมาคมผู้สื่อข่าว ยัง เจอนัลลิสต์ คลับ (Young Journalist Club) รายงานโดยอ้างคำพูดของอิสมาอิล โคซารี สมาชิกคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งชาติของรัฐสภาอิหร่านเมื่อวันอาทิตย์ว่า “ขณะนี้รัฐสภาได้ข้อสรุปว่าเราควรปิดช่องแคบฮอร์มุซ แต่การตัดสินใจขั้นสุดท้ายในเรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติสูงสุด” พร้อมกับกล่าวว่า การปิดช่องแคบฮอร์มุซอยู่ในวาระการประชุม และ “จะดำเนินการเมื่อจำเป็น”
อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการตัดสินใจขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับการปิดช่องแคบฮอร์มุซ รวมทั้งไม่มีการรายงานอย่างเป็นทางการว่ารัฐสภาได้ร่างกฎหมายที่จะนำไปสู่การปิดช่องแคบดังล่าว
ที่ผ่านมานั้น อิหร่านเคยขู่ว่าจะปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันและก๊าซประมาณ 20% ของความต้องการทั่วโลก เพื่อเป็นแนวทางในการสกัดแรงกดดันจากชาติตะวันตก โดยขณะนี้แรงกดดันกำลังอยู่ในจุดสูงสุดหลังจากสหรัฐฯ โจมตีโรงงานนิวเคลียร์ 3 แห่งของอิหร่านในเมืองฟอร์โด นาทานซ์ และอิสฟาฮาน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (21 มิ.ย.)
เมื่อผู้สื่อข่าวถามอับบาส อารักชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านว่ารัฐบาลอิหร่านจะปิดช่องแคบฮอร์มุซหรือไม่ เขาหลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถาม และกล่าวเพียงว่า “อิหร่านมีทางเลือกหลายทาง”
ทั่วโลกจับตาช่องแคบฮอร์มุซอย่างใกล้ชิด เนื่องจากช่องแคบแห่งนี้ถือเป็นเส้นทางการขนส่งที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ โดยข้อมูลจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) ระบุว่า ในปี 2567 ปริมาณน้ำมันที่มีการขนส่งผ่านช่องแคบฮอร์มุซเฉลี่ยอยู่ที่ 20.9 ล้านบาร์เรล/วัน พร้อมกับประมาณการว่า 83% ของน้ำมันดิบและคอนเดนเสท (condensate) ที่ลำเลียงผ่านช่องแคบแห่งนี้ถูกส่งไปยังตลาดเอเชีย โดยมีจีน อินเดีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้เป็นจุดหมายปลายทางหลัก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 มิ.ย. 68)
