นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ์ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีย่อตัวถูกแรงกดดันระยะสั้นจากปัจจัยในประเทศ โดยเฉพาะการเมืองตึงเครียด หลังพรรคภูมิใจไทยปฏิเสธข้อเสนอแลกเก้าอี้รมว. มหาดไทย และประกาศถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล ประกอบกับคลิปเสียงระหว่างนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชา สร้างโมเมนตัมแรงกดดันเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้เสถียรภาพรัฐบาลสั่นคลอนมากขึ้น ขณะที่พรรรคร่วมรัฐบาลอื่น ๆ จะนัดประชุมกำหนดท่าทีวันนี้
ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ย 4.25-4.50% เป็นไปตามคาด และยังมีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ หลังจากทราบผลกระทบจากนโยบายภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ อย่างไรก็ตาม มีการปรับประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจของสหรัฐลง และแนวโน้มเงินเฟ้อมีปรับคาดการณ์เพิ่มขึ้นเล็กน้อย
โดยให้กรอบแนวรับ 1,070 จุด และแนวต้าน 1,100 จุด
– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (18 มิ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,171.66 จุด ลดลง 44.14 จุด หรือ -0.10%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,980.87 จุด ลดลง 1.85 จุด หรือ -0.03% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,546.27 จุด เพิ่มขึ้น 25.18 จุด หรือ +0.13%
– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 38,858.52 จุด ลดลง 26.63 จุด หรือ -0.06%
– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (18 มิ.ย.) 1,094.58 จุด ลดลง 19.00 จุด (-1.71%) มูลค่าซื้อขาย 36,048.37 ล้านบาท
– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (18 มิ.ย.) 1,142.86 ล้านบาท
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค. (18 มิ.ย.) เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 75.14 ดอลลาร์/บาร์เรล
– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด( 18 มิ.ย.) 6.24 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
– เงินบาทเปิด 32.69 จับตาประชุม BoE-วิกฤติการเมืองไทย คาดกรอบวันนี้ 32.60-32.80
– คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น
– เซ่นพิษคลิปเสียงข้ามชาติ “อุ๊งอิ๊ง-ฮุน เซน” วิพากษ์กันแซดนายกรัฐมนตรีบ้อท่า ทำให้ไทยกลายเป็น “เบี้ยล่างเขมร” ส่งผลถึงทางตันต้องตัดสินใจเลือก “ยุบสภา” หรือ “ลาออก” ปลดล็อกวิกฤตการเมืองและตลาดหุ้นไทย หลังตลาดผันผวนมาอย่างต่อเนื่อง ผวา หาก “ยุบสภา” การพิจารณางบประมาณปี’69-แผนเจรจาภาษีสหรัฐ-นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ต้องหยุดชะงัก
– “แพทองธาร” นั่งหัวโต๊ะประชุมบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ เคาะงบก้อนแรก 1.15 แสนล้านบาท โครงการน้ำและคมนาคมได้เงินมากสุด 8.5 หมื่นล้านบาท “อนุทิน” เชื่อคำเตือน สตง. ของบลงท้องถิ่น ฝากถึง “มท.1” คนใหม่ดูให้ดี ระวังซ้ำรอยจำนำข้าว “ปลัดพาณิชย์” เปิดเจรจาภาษีทรัมป์ เตรียมส่งข้อเสนอฝ่ายไทยให้สหรัฐพิจารณา 20 มิ.ย.นี้
– คณะผู้แทนเจรจาฝ่ายไทย เผยไทยและสหรัฐเริ่มเปิดการเจรจาอย่างเป็นทางการผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ 2 ชั่วโมง เพื่อแก้ปัญหากรณีสหรัฐเก็บภาษีตอบโต้ไทย การขาดดุลการค้าสหรัฐ ตลอดจนแนวทางการสร้างสมดุลทางการค้าระหว่างกัน โดยทางสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐยื่น 5 ข้อเสนอให้ไทยพิจารณา ประกอบด้วย 1.มาตรการทางภาษีและโควตา 2.มาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่มาตรการทางภาษี 3.การค้าดิจิทัล 4.แหล่งกำเนิดสินค้า และ 5.ความมั่นคงภายในประเทศและด้านเศรษฐกิจของสหรัฐ
– “เอสซีบีเอกซ์-กรุงไทย-ซีพีกรุ๊ป” ลั่นพร้อมออกรบบนธุรกิจใหม่ “เวอร์ชวลแบงก์” ด้าน “ซิกเว่” มองโอกาสธุรกิจใหม่กลุ่มซีพี “อาทิตย์” ลั่นพร้อมเต็มที่ทั้งระบบเทคโนโลยี การดำเนินธุรกิจ ชี้เศรษฐกิจปัจจุบันการใส่เกียร์ 5 เร่งเครื่องธุรกิจต้องระวังมากขึ้น “ผยง” ชี้หารือกลุ่มธุรกิจต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าธนาคารไร้สาขา
– ส่งออก พ.ค.2568 พุ่ง 18.4% ขยายตัวต่อเนื่องเดือนที่ 11 มูลค่า 31,044 ล้านดอลลาร์สูงเป็นประวัติการณ์ ผู้นำ
– นายกฯ ประชุมหัวหน้าส่วนราชการสั่งกระทรวงพลังงานดูแลราคาน้ำมัน-ไฟฟ้า หวั่นความขัดแย้งอิสราเอล-อิหร่าน ทำราคาน้ำมันโลกพุ่งสูง ฟาก “ปลัดพลังงาน” มั่นใจสำรองน้ำมันเพียงพอ 60 วัน พยายามตรึงราคาดีเซล 32 บาทต่อลิตร คุย ก.คลังช่วยลดภาษีสรรพสามิตหากเหตุการณ์รุนแรงขึ้น พร้อมสั่งการ “กรมธุรกิจพลังงาน” หารือผู้ค้า ม.7 และโรงกลั่นฯ สำรองเพิ่ม
– TRUE (กสิกรไทย) “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 13.61 บาท การประมูลคลื่นความถี่ 29 มิถุนายน เกี่ยวข้องกับใบอนุญาตที่เช่าจาก NT ก่อนหน้านี้ แม้ ADVANC อาจเข้าร่วมประมูลคลื่น 2300MHz ส่งผลให้ราคาสูงกว่าที่ตลาดคาด แต่มองว่าเป็นโอกาสสะสมหุ้นระยะยาว หากผลการประมูลออกมาดีกว่าที่เราคาดไว้มองว่าจะมี upside เพิ่มขึ้นได้อีกต่อประมาณการล่าสุดของเรา หากอิงจากการวิเคราะห์คาดประมูลคลื่นความถี่ครั้งนี้ จะประหยัดต้นทุนได้ประมาณ 2.0 บาท/หุ้น สำหรับ TRUE และ 5.0 บาท/หุ้นสำหรับ ADVANC คิดเป็นประมาณ 15% และ 2% ตามลำดับ ของราคาเป้าหมายปี 68 ของเรา
– BDMS (พาย) “ซื้อ”ราคาเป้าหมาย 26 บาท คาดรายได้ปี 68 เติบโตในอัตราลดลง (-2%) โดยในไตรมาส 1/68 ประกาศกำไรสุทธิที่ 4.3 พันล้านบาท (+7%yoy) ทรงตัวจากไตรมาสก่อน หนุนจาก 1) รายได้รับรู้จากโรงพยาบาลและเตียงผู้ป่วยใหม่ และ 2)การเติบโตของผู้ป่วยต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มตะวันออกกลาง (+22%YoY) และ CLMV (+11%YoY) ขณะที่ในไตรมาส 2/68 มองผลประกอบการโต YoY แม้อ่อนตัว QoQ จากปัจจัยฤดูกาล และจำนวนผู้ป่วยต่างชาติชะลอตัวในเดือนเมษายน ส่วนหนึ่งเป็นผลกระทบระยะสั้นจากเหตุแผ่นดินไหว แต่คาดสามารถชดเชยจากการฟื้นตัวในเดือนพฤษภาคม (+6%YoY)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 มิ.ย. 68)
